เมนู

มะม่วงเป็นต้น และน้ำที่อนุโลมเข้าได้กับน้ำปานะ 8 อย่างนั้น. วินิจฉัย
น้ำปานะเหล่านั้น ข้าพเจ้าได้กล่าวแล้วในสมันตปาสาทิกาอรรถกถาพระ
วินัย.

ในการสะสมผ้า มีวินิจฉัยดังต่อไปนี้


ผ้าที่ยังไม่ได้อธิฐานและยังไม่ได้วิกัปไว้ ย่อมเป็นการสะสมและ
ทำให้เสียการปฏิบัติเคร่งครัด นี้เป็นการกล่าวโดยอ้อม ส่วนโดยตรง
ภิกษุควรจะเป็นผู้สันโดษในไตรจีวร ได้ผืนที่ 4 แล้ว ควรให้แก่รูปอื่น
ถ้าไม่อาจจะให้แก่รูปใดรูปหนึ่งได้ แต่ประสงค์จะให้แก่รูปใดรูปนั้นไป
เพื่อประโยชน์แก่อุเทศ หรือเพื่อประโยชน์แก่ปริปุจฉา พอเธอกลับมา
ควรให้เลย จะไม่ให้ไม่ควร แต่เมื่อจีวรไม่เพียงพอ ยิ่งมีความหวังที่จะ
ได้มา จะเก็บไว้ภายในเวลาที่ทรงอนุญาตก็ควร เมื่อยังไม่ได้เข็มด้ายและ
ตัวผู้ทำจีวร จะเก็บไว้เกินกว่านั้น ต้องทำวินัยกรรมจึงควร แต่เมื่อจีวร
ผืนนี้เก่า จะเก็บไว้รอว่า เราจักได้จีวรเช่นนี้จากไหนอีก ดังนี้ ไม่ควร
ย่อมชื่อว่าเป็นการสะสมและทำให้เสียการปฏิบัติเคร่งครัด.

การสะสมยาน มีวินิจฉัยดังต่อไปนี้


ที่ชื่อว่า ยาน ได้แก่ล้อเลื่อน รถ เกวียน รถมีเครื่องประดับ วอ
รถเข็น. นี้มิใช่ยานของบรรพชิต. บรรพชิตมียานอย่างเดียวคือ รองเท้า,
ก็ภิกษุรูปหนึ่ง ควรใช้รองเท้าได้ 2 คู่เป็นอย่างมาก คือ คู่หนึ่งสำหรับ
เดินป่า คู่หนึ่งสำหรับเท้าที่ล้างแล้ว . ได้คู่ที่ 3 ควรให้แก่รูปอื่น. แต่จะ
เก็บไว้ด้วยคิดว่า เมื่อคู่นี้เก่า เราจักได้คู่อื่นจากไหน ดังนี้ ไม่ควร.
ย่อมชื่อว่าเป็นการสะสมและทำให้เสียการปฏิบัติเคร่งครัด.

ในการสะสมที่นอน มีวินิจฉัยดังต่อไปนี้


บทว่า สยนํ ได้แก่เตียง. ภิกษุรูปหนึ่ง ควรมีเตียงได้อย่างมาก
2 เตียง คือเตียงหนึ่งไว้ในห้อง เตียงหนึ่งไว้ในที่พักกลางวัน. ได้เกิน
กว่านั้น ควรให้แก่ภิกษุรูปอื่น หรือแก่คณะ. จะไม่ให้ไม่ควร. ย่อมชื่อว่า
เป็นการสะสมและทำให้เสียการปฏิบัติเคร่งครัด.

ในการสะสมของหอม มีวินิจฉัยดังต่อไปนี้


เมื่อภิกษุอาพาธเป็นฝี เป็นหิด และโรคผิวหนังเป็นต้น จะใช้
ของหอมก็ควร. เมื่อโรคนั้นหายแล้ว ควรให้นำของหอมเหล่านั้นมาให้
แก่ภิกษุอาพาธรูปอื่น ๆ หรือควรนำไปใช้ในกิจ มีการรมควันเรือน ด้วย
นิ้วมือ 5 นิ้วเป็นต้นที่ประตู. แต่จะเก็บไว้ด้วยประสงค์ว่า เมื่อเป็นโรค
อีกจักได้ใช้ ดังนี้ไม่ควร. ย่อมชื่อว่าเป็นการสะสมของหอมและทำให้เสีย
การปฏิบัติเคร่งครัด.
สิ่งของนอกจากที่กล่าวแล้ว พึงเห็นว่า ชื่อว่า อามิส. คือ ภิกษุ
บางรูปในพระศาสนานี้ ให้เขานำเอาภาชนะงา ข้าวสาร ถั่วเขียว ถั่ว-
ราชมาส มะพร้าว เกลือ ปลา เนื้อ เนื้อแห้ง เนยใส น้ำมัน และ
น้ำอ้อยงบเป็นต้น มาเก็บไว้ด้วยคิดว่า จักมีเพื่ออุปการะในกาลเห็นปาน
นั้น. ครั้นเข้าฤดูฝน แต่เช้าตรู่ทีเดียว เธอให้พวกสามเณรต้มข้าวต้ม ฉัน
แล้วใช้สามเณรไปด้วยสั่งว่า สามเณร เธอจงเข้าไปบ้านที่ลำบากเพราะ
น้ำโคลน ครั้นไปถึงตระกูลนั้นแล้ว บอกว่า ฉันอยู่ที่วัดแล้วจงนำนมส้ม
เป็นต้นจากตระกูลโน้นมา. แม้เมื่อภิกษุทั้งหลายถามว่า ท่านขอรับ จัก
เข้าบ้านหรือ ? ก็ตอบว่า ผู้มีอายุ เวลานี้บ้านเข้าไปลำบาก. ภิกษุเหล่านั้น